วันจันทร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒

เช้ย…เชย… “น้ำพริกไข่เค็ม”


ถึงแม้จะเป็นการขัดกับความต้องการจริงของร่างกายที่อาหารมื้อสุดท้ายของวันเป็นอาหารมื้อที่มีความสำคัญน้อยที่สุด แต่สำหรับคนส่วนมากแล้วอาหารเย็นกลับเป็นมื้อที่สำคัญมากที่สุด ด้วยเราใช้ความรู้สึกตัดสินใจมากว่าหลักการใดๆ เพราะเรามักจะมีเวลาสำหรับอาหารมื้อเย็นมากกว่าและสมาชิกของครอบครัวก็มักจะอยู่กันพร้อมหน้าที่สุด

ที่บ้านเมย์จะมีสูตรประจำสำหรับการจัดกับข้าวตั้งโต๊ะมื้อเย็น ทุกครั้งถ้าเมย์เป็นคนจัดอาหารก็จะต้องทำตามสูตรนี้เพราะความเคยชินคือมื้อเย็นจะต้องมีอาหารที่รสชาติต่างกันที่เป็น น้ำแกง 1 อย่าง ผัก 1 อย่าง ในรูปแบบของเครื่องจิ้มหรือผัดผักก็ได้ และอาหารจานหลักอีกหนึ่งอย่างประเภทของทอดหรือของย่าง ถ้าวันไหนมีอาหารแยะหน่อยก็มักจะเพิ่มขึ้นไปจากนี้

เครื่องจิ้มที่เป็นหลนหรือน้ำพริกชนิดต่างๆ นั้นเคยเป็นอาหารที่เมย์ไม่ชอบที่สุดเพราะรู้สึกว่ารสชาติไม่ถูกใจแล้วก็ยังมีผักหน้าตาประหลาดแยะอีกด้วย พอโตหน่อยขึ้นสมองเราก็บันทึกไว้แล้วว่าเราไม่ชอบกินอาหารประเภทนี้นะ ก็เลยจะไม่แตะต้องเมื่ออาหารประเภทดังกล่าวขึ้นโต๊ะอาหาร ด้วยความที่เมย์เป็นเด็กที่ทานอาหารเกือบทุกอย่างเลยไม่มีใครสังเกตเห็นมั้งค่ะ ก็เลยไม่ได้ถูกบังคับให้กินตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก

เมย์เพิ่งมารู้เมื่อไม่นานนี้เองค่ะว่าตัวเองเชยอยู่ตั้งนาน จริงๆ แล้วนั้นเหตุเกิดจากสลัดค่ะ อธิบายง่ายๆ คือเมย์ทานสลัดแบบเดิมๆ บ่อยจนเบื่อก็เลยพยามยามหาสลัดรสชาติใหม่ๆ ทานดู พอดีวันนั้นเป็นกับข้าวไทยที่ขึ้นโต๊ะ หนึ่งในนั้นก็คือน้ำพริก ตอนแรกเมย์ก็ไม่ทานตามปกติแต่ดูๆ อยู่สักพักก็รู้สึกว่าส่วนประกอบของน้ำพริกนั้นก็ไม่ต่างจากสลัดเท่าไรก็เลยทำใจกล้าชิมดูอีกทีหลังจากไม่กินมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เอ๊ะทำไมเหมือนกับที่จำได้มันอร่อยกว่าเดิมตั้งแยะนี่นา แถมยังกินสนุกกว่าสลัดด้วยตรงที่มีผักตั้งหลายรสชาติให้เลือกกินในแต่ละคำทั้งแบบสุกและแบบดิบ โอ้ยเรานี่เช้ยเชยจริงหลงไปหาสลัดรสชาติใหม่ๆ อยู่ตั้งนานแต่ดันไม่ได้สนใจกินน้ำพริก!

น้ำพริกที่เมย์เลือกให้ทำในวันนี้ประยุกต์มาจากน้ำพริกกะปิของโปรดของคนไทยแต่เพิ่มไข่แดงเค็มลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติหอมมัน ตำกระเทียมไทยปอกเปลือก 4 กลีบ กับกะปิดี 1 ช้อนโต๊ะให้เข้ากันก่อน การตำกะปิกับกระเทียมด้วยกันจะทำให้น้ำพริกหอมไม่เหม็นคาว พอเข้ากันแล้วบุบพริกขี้หนูลงไป 1-2 เม็ด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ให้ได้รสเค็มเปรี้ยวหวาน แกะไข่เค็มต้ม 2 ฟอง เลือกใช้แต่ไข่แดงแล้วบิให้เป็นชิ้นเล็กๆ ลงไปคนในครก ใส่มะเขือพวง 8 ลูก ลงไปแล้วบุบพอแตก

ถ้าหามะอึกได้ก็ขูดขนที่อยู่บนลูกออกแล้วฝานลงไป 2-3 แว่น จะทำให้รสชาติกลมกล่อม ถ้ารู้สึกว่าน้ำพริกข้นไปก็ให้เติมน้ำสุกอีกนิดหน่อยแล้วชิมรสดูอีกให้ได้รสตามชอบ ผักที่ใช้แกล้มนั้นใช้ได้ทั้งผักต้มและผักดิบ เมย์จะชอบมีผักหลายๆ ชนิดเวลากินน้ำพริก ข้าวแต่ละคำจะได้มีความแตกต่างกัน ผักที่เมย์จะมีประจำคือ มะเขือเปราะ แตงกวา ถั่วฝักยาว แคร์รอตต้ม ลูกฟักแม้วต้ม ลูกมะระขี้นกต้ม แล้วถ้าเราเจอผักชนิดอื่นๆ น่าสนใจในวันนั้นก็นำมากินเพิ่มได้อีกนะคะ น้ำพริกกะปิไข่เค็มนี้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ และปลาทอดกรอบๆ อย่างปลาดุกฟูอร่อยที่สุดค่ะ

อาหารประจำบ้าน

กระเทียม น้ำปลา น้ำตาล

ตู้กับข้าว

กะปิ ไข่เค็ม พริกขี้หนู มะนาว มะเขือพวง

รสชาติของชีวิต

ผักแกล้มน้ำพริก ปลาดุกฟู มะอึก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น