วันจันทร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒

ผลพลอยได้ “ไข่เจียวกากหมู”


เมย์เป็นคนขี้สงสัยก็เลยลองคิดสนุกๆ ดูแล้วสมมติว่าตัวเองอยู่ในสมัยโบราณว่า ชีวิตการเป็นอยู่เราจะเป็นยังไงบ้าง การอยู่โดยไม่มีไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ รถยนต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกทั้งหลายทั้งปวง คิดๆ ดูแล้วก็มีทั้งความสนุกและความลำบากนะคะ

แหมแค่การทำอาหารยังไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้เลยนะเนี่ย จะหุงข้าวทีต้องทั้งจุดเตาถ่านทั้งต้องเลี้ยงไฟจนข้าวสุกอีก ไม่ใช่แค่เปิดสวิตช์แล้วนั่งรอเหมือนสมัยนี้จริงๆ

ไข่เจียวเป็นอาหารเกือบทุกคนจะหัดทำเป็นอย่างแรก แต่คิดดูซิคะว่าเมื่อก่อนนั้น ทำไข่เจียวทีต้องเอามันหมูสดมาเจียวกว่าจะได้น้ำมันหมูและได้กากหมูมาเป็นผลพลอยได้ สมัยนี้กากหมูเลยกลายเป็นอาหารที่คนสมัยใหม่ไม่ค่อยได้เห็นกันโดยปริยาย

เมย์ขออนุญาตไม่บอกว่าตัวเองเป็นคนสมัยโบราณนะคะ แต่ขอเป็นคนสมัยใหม่ที่เผอิญมีคุณย่าคุณยายที่เป็นคนโบราณทำให้ติดใจจานไข่เจียวกากหมูนี้ด้วย

เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะเราเจียวมันหมูเพื่อให้ได้กากหมู การทำกากหมูนั้นต้องใช้มันหมูแข็งเท่านั้นนะคะถึงจะได้กากหมูที่กรอบอร่อย เมื่อเราซื้อมันหมูแข็งได้แล้วให้นำมาตัดแต่งให้เป็นชิ้นสวย ประมาณว่าเอาส่วนที่ไม่พึงประสงค์ออกให้เหลือเป็นชิ้นขาวๆ นะคะ เสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นกว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร นำมันหมูที่หั่นได้ไปเจียวในกระทะตั้งไฟอ่อนๆ น้ำมันจะค่อยๆ ซึมออกมาจากมันแข็งจนเหลือแต่กากหมูสีเหลืองทอง ถึงตอนนี้เราก็ต้องช้อนกากหมูออกมาเพื่อให้สะเด็ดน้ำมันทิ้งไว้สักแป๊บ กากหมูก็จะกรอบกรึบเลยละค่ะ

ถ้าเป็นคนโบราณก็จะเอาน้ำมันที่ได้เนี่ยมาเจียวไข่เลย แต่ถ้าไม่ชอบก็ใช้น้ำมันพืชแทนแล้วกันนะคะ ตีไข่เป็ดสัก 2 ฟองกับน้ำปลาและน้ำมะนาวนิดหนึ่ง (เมย์ชอบใช้ไข่เป็ดนั้นนำมาทำไข่เจียวมากกว่าไข่ไก่ เพราะได้ไข่เจียวที่กรอบและน้ำมะนาวก็จะช่วยให้ไข่ฟู) ตั้งน้ำมันจนร้อนจัดควันขึ้นแล้วนำไข่ลงเจียวให้ฟู โรยด้วยกากหมูที่เราทำเตรียมไว้ ทานกับหอมแดงซอย พริกขี้หนูสวนซอย มะนาว และข้าวร้อนๆ ระวังจะติดใจ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น